top of page

เสียเวลาทำรีพอร์ต HR? ระบบ HRM ช่วยออกรีพอร์ตอัตโนมัติได้ตรง Format ราชการ

ปัญหาที่เจ้าหน้าที่ HR ในหน่วยงานราชการเจอทุกวัน

หลายท่านคงพอจะนึกภาพออกว่า ทุกครั้งที่ถึงช่วงสิ้นเดือนหรือสิ้นไตรมาส เจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลในหน่วยงานราชการต้องนั่งเร่งทำรีพอร์ตต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น รายงานการลา รายงานเวลาทำงาน รายงานข้อมูลบุคลากร หรือรายงานอื่นๆ ที่หน่วยงานต้นสังกัดร้องขอ

การใช้โปรแกรม HR แบบเดิมๆ หรือการทำงานด้วย Excel ทำให้เสียเวลาและเกิดข้อผิดพลาดบ่อยครั้ง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่หน่วยงานราชการหันมาสนใจระบบ HRM สมัยใหม่กันมากขึ้น

ปัญหาหลักที่พบบ่อยในการทำรีพอร์ต HR


งานยุ่งเพราะระบบแบบเก่าๆ

1. ใช้เวลานานในการรวบรวมข้อมูล ต้องไล่เช็คข้อมูลจากหลายแหล่ง ทั้งเอกสาร Excel, ระบบเก่า หรือแม้แต่เอกสารกระดาษ ทำให้การทำงานล่าช้าและไม่มีประสิทธิภาพ

2. ต้องปรับ Format ให้ตรงตามที่ราชการกำหนด แต่ละหน่วยงานมีรูปแบบรีพอร์ตที่แตกต่างกัน บางครั้งต้องปรับเปลี่ยนทุกครั้งที่มีการส่งรายงาน การใช้โปรแกรม HR แบบทั่วไปอาจไม่รองรับความต้องการเฉพาะนี้

3. เสี่ยงต่อความผิดพลาด การคัดลอกข้อมูล การคำนวณด้วยมือ หรือการพิมพ์ซ้ำๆ ทำให้เกิดโอกาสผิดพลาดสูง ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของข้อมูล

4. ไม่ทันตามกำหนดเวลา เพราะต้องใช้เวลามากในการจัดทำรีพอร์ต ทำให้บางครั้งส่งงานล่าช้าและได้รับการตักเตือนจากหน่วยงานต้นสังกัด


ระบบ HRM สมัยใหม่ ตอบโจทย์การออกรีพอร์ตอัตโนมัติได้อย่างไร

จินตนาการว่าถ้าคุณสามารถกดปุ่มเพียงครั้งเดียว แล้วได้รีพอร์ตที่สมบูรณ์ ถูกต้อง และตรงตาม Format ที่ราชการต้องการทันที คุณจะประหยัดเวลาได้มากแค่ไหน นี่คือสิ่งที่โปรแกรม HR ที่ทันสมัยควรมีให้


ภาพประกอบ ในส่วนของคุณสมบัติของระบบ HR

คุณสมบัติสำคัญของระบบ HR ที่ดี

1. รองรับ Format รีพอร์ตมาตรฐานราชการ

ระบบ HRM ที่ดีควรมีเทมเพลตรีพอร์ตที่เป็นมาตรฐานของราชการติดตั้งมาให้แล้ว เช่น:

  • รายงานตามแบบ ก.พ.

  • รายงานข้อมูลบุคลากรตาม พ.ร.บ.

  • รายงานการลาตามระเบียบราชการ

  • รายงานเวลาทำงานตามที่กำหนด

  • รายงานการประเมินผลการปฏิบัติงาน

การมีเทมเพลตพร้อมใช้ทำให้โปรแกรม HR ของคุณสามารถตอบสนองความต้องการได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาสร้าง Format ใหม่

2. ปรับแต่งได้ง่ายตามความต้องการของแต่ละหน่วยงาน

แม้ระบบ HRM จะมีเทมเพลตมาตรฐาน แต่แต่ละหน่วยงานอาจมีรูปแบบรีพอร์ตที่แตกต่างกันเล็กน้อย โปรแกรม HR ที่ดีควรให้คุณสามารถ:

  • ปรับแต่งฟิลด์ข้อมูลตามต้องการ

  • เพิ่มเติมคอลัมน์หรือลบคอลัมน์ที่ไม่จำเป็น

  • เปลี่ยนรูปแบบการแสดงผล

  • กำหนดเงื่อนไขการแสดงข้อมูล

ทั้งหมดนี้ทำได้โดยไม่ต้องพึ่งทีมไอทีหรือโปรแกรมเมอร์ ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย

3. ดึงข้อมูลแบบ Real-time จากฐานข้อมูลกลาง

ข้อได้เปรียบสำคัญของระบบ HR คือการดึงข้อมูลจากฐานข้อมูลหลักโดยอัตโนมัติ ทำให้:

  • ข้อมูลเป็นปัจจุบันและถูกต้องที่สุดเสมอ

  • ไม่ต้องกังวลว่าจะลืมอัพเดทข้อมูลบางส่วน

  • ลดความเสี่ยงจากการใช้ข้อมูลเก่า

  • รีพอร์ทสะท้อนสถานะปัจจุบันของบุคลากรได้ทันที

4. Export รีพอร์ตได้หลากหลายรูปแบบ

โปรแกรม HR ที่ดีควรรองรับการ Export ได้หลายรูปแบบ:

  • PDF สำหรับการพิมพ์และเก็บเป็นเอกสารทางการ

  • Excel สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลเพิ่มเติม

  • Word สำหรับการแก้ไขเนื้อหาก่อนส่ง

  • CSV สำหรับการนำเข้าข้อมูลไปยังระบบอื่น

ความยืดหยุ่นนี้ทำให้ระบบ HRM สามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของหน่วยงานราชการได้

5. กำหนดการออกรีพอร์ตอัตโนมัติ

ฟีเจอร์ที่ช่วยประหยัดเวลาได้มาก คือการตั้งค่าให้ระบบ HR สร้างและส่งรีพอร์ตอัตโนมัติ:

  • ตั้งเวลาออกรีพอร์ตรายเดือน รายไตรมาส หรือรายปี

  • ส่งอีเมลไปยังผู้เกี่ยวข้องโดยอัตโนมัติ

  • แจ้งเตือนเมื่อถึงกำหนดส่งรายงาน

  • บันทึกประวัติการออกรีพอร์ตไว้ตรวจสอบ

ไม่ต้องมานั่งจำว่าวันไหนต้องส่งรายงานอะไร ระบบ HRM จะจัดการให้หมด


ภาพประโยชน์ในการทำงานจากระบบที่ดี

ประโยชน์ที่ได้รับจากระบบ HRM ที่มีฟีเจอร์รีพอร์ตอัตโนมัติ

1. ประหยัดเวลาได้มหาศาล

งานที่เคยใช้เวลา 2-3 วันในการทำรีพอร์ต ด้วยโปรแกรม HR สมัยใหม่ตอนนี้เหลือแค่ไม่กี่นาที เวลาที่เหลือสามารถนำไปทำงานที่สร้างคุณค่ามากกว่าได้ เช่น:

  • การพัฒนาบุคลากร

  • การวางแผนอัตรากำลัง

  • การดูแลสวัสดิการพนักงาน

2. ลดข้อผิดพลาดในการทำรีพอร์ต

ระบบ HR จะดึงข้อมูลจากแหล่งเดียวที่เชื่อถือได้ ทำให้:

  • ไม่ต้องกังวลเรื่องตัวเลขผิด

  • ไม่มีปัญหาข้อมูลไม่ตรงกันระหว่างรีพอร์ต

  • ผ่านการตรวจสอบและ validation อัตโนมัติ

  • มีการ audit trail บันทึกการเปลี่ยนแปลงข้อมูล

3. ตอบสนองได้รวดเร็วทันใจ

เมื่อหน่วยงานต้นสังกัดขอรายงานเร่งด่วน โปรแกรม HR ช่วยให้คุณสามารถออกรีพอร์ตให้ได้ทันที ไม่ต้องรอหลายวันเหมือนแต่ก่อน แสดงให้เห็นถึงความพร้อมและความเป็นมืออาชีพของหน่วยงาน

4. เพิ่มความน่าเชื่อถือให้หน่วยงาน

การส่งรายงานที่ถูกต้อง ตรงเวลา และเป็นระเบียบ ทำให้หน่วยงานของคุณดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น สร้างความประทับใจให้กับหน่วยงานต้นสังกัดและผู้บริหารระดับสูง

5. รองรับการตรวจสอบและ Audit

ระบบ HRM ที่ดีจะมีระบบ:

  • บันทึกประวัติการออกรีพอร์ตทุกครั้ง

  • แสดงผู้ออกรีพอร์ต วันที่-เวลา

  • สามารถย้อนดูรีพอร์ตย้อนหลังได้

  • ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ชัดเจน


เปรียบเทียบความสะดวกในการทำงานที่มากขึ้น

เปรียบเทียบ ก่อนและหลังใช้ระบบ HRM

ก่อนใช้โปรแกรม HR สมัยใหม่

  • ใช้เวลาทำรีพอร์ต 2-3 วันต่อครั้ง

  • เสี่ยงผิดพลาดจากการคัดลอกข้อมูล

  • ข้อมูลอาจไม่ตรงกันในแต่ละแหล่ง

  • ต้องปรับ Format ใหม่ทุกครั้ง

  • ส่งงานล่าช้าบ่อยครั้ง

หลังใช้ระบบ HR อัตโนมัติ

  • ออกรีพอร์ตได้ใน 5-10 นาที

  • ข้อมูลถูกต้อง ดึงจาก Database เดียว

  • Format เป็นมาตรฐาน ปรับแต่งได้ง่าย

  • ส่งรายงานได้ทันเวลาเสมอ

  • มีเวลาโฟกัสงานสำคัญอื่นๆ


ระบบ HRM ควรมีฟีเจอร์อะไรบ้างสำหรับหน่วยงานราชการ

นอกจากการออกรีพอร์ตอัตโนมัติแล้ว โปรแกรม HR ที่ดีสำหรับหน่วยงานราชการควรมี

ฟีเจอร์พื้นฐาน

  • ระบบบริหารข้อมูลบุคลากร

  • ระบบลาและขาดงาน

  • ระบบบันทึกเวลาทำงาน

  • ระบบเงินเดือนและสวัสดิการ

  • ระบบประเมินผลการปฏิบัติงาน


ฟีเจอร์เพิ่มเติม

  • Dashboard แสดงภาพรวมข้อมูล HR

  • ระบบ Self-Service สำหรับพนักงาน

  • Mobile Application

  • การแจ้งเตือนอัตโนมัติ

  • รองรับการทำงาน Workflow


ฟีเจอร์สำหรับระบบราชการ

  • รองรับตำแหน่งและอัตราตามโครงสร้างราชการ

  • คำนวณค่าตอบแทนตามระเบียบราชการ

  • รองรับการจัดทำ IDP และ KPI

  • รายงานตาม พ.ร.บ. และระเบียบต่างๆ

  • ระบบอนุมัติหลายขั้นตอน


เลือกระบบ HRM อย่างไรให้เหมาะกับหน่วยงาน

พิจารณาปัจจัยเหล่านี้

1. ความต้องการของหน่วยงาน

  • จำนวนบุคลากรที่มี

  • ประเภทรายงานที่ต้องส่งเป็นประจำ

  • งบประมาณที่มี

2. ความยืดหยุ่นของระบบ

  • สามารถปรับแต่งได้ง่ายหรือไม่

  • รองรับการเปลี่ยนแปลงระเบียบใหม่ได้หรือไม่

  • มีการอัพเดทฟีเจอร์เพิ่มเติมหรือไม่

3. ความปลอดภัยของข้อมูล

  • มีการสำรองข้อมูลอัตโนมัติ

  • ระบบรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐาน

  • กำหนดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลได้

4. การสนับสนุนและบริการ

  • มีทีมดูแลและแก้ไขปัญหา

  • มีการอบรมการใช้งาน

  • มี Manual และเอกสารประกอบ


ภาพผู้คนในองค์กร

เทรนด์ระบบ HR ในอนาคต

โปรแกรม HR กำลังพัฒนาไปในทิศทาง

  • AI และ Machine Learning ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลและคาดการณ์แนวโน้ม

  • Cloud-based System เข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา

  • Mobile-First Design ใช้งานผ่านมือถือได้สะดวก

  • Integration เชื่อมต่อกับระบบอื่นๆ ได้ง่าย

  • Chatbot ตอบคำถามและให้บริการอัตโนมัติ


อย่าเสียเวลาไปกับงานที่ระบบ HRM ทำให้ได้

ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าไปมาก การนั่งทำรีพอร์ตด้วยมือหรือใช้เวลาหลายวันเพื่อจัดทำเอกสารที่ซ้ำซากจำเจ ถือเป็นการใช้ทรัพยากรที่ไม่คุ้มค่า

โปรแกรม HR ที่ดี ควรช่วยให้คุณออกรีพอร์ตได้ง่าย รวดเร็ว และตรงตาม Format ที่ราชการต้องการ เพื่อให้คุณมีเวลาไปโฟกัสกับงานที่สำคัญกว่า ไม่ว่าจะเป็น:

  • การพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง

  • การวางแผนอัตรากำลังให้เหมาะสม

  • การสร้างความสุขให้กับพนักงานในองค์กร

  • การยกระดับการทำงานของฝ่าย HR

ถ้าคุณยังใช้วิธีการเดิมๆ ในการทำรีพอร์ต บอกได้เลยว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องเปลี่ยนมาใช้ระบบ HRM ที่ทันสมัยกว่านี้ ลงทุนในระบบ HR วันนี้ เพื่อประหยัดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพในอนาคต

Comments


bottom of page